Learn

วิตามินแต่ละชนิด กินตอนไหนได้ประโยชน์ที่สุด

วิตามินแต่ละชนิด

เพื่อให้ร่างกายสามารถทำงานได้อย่างเป็นปกติและมีประสิทธิภาพมากที่สุด ร่างกายจำเป็นต้องได้รับวิตามิน 13 ชนิดที่สำคัญ ตั้งแต่วิตามิน A, B1, B2, B3, B5, B6, B7, B9, B12, C, D, E, K ซึ่งวิตามินทั้ง 13 ชนิดนี้สามารถพบได้ในอาหารทั่วไป ตั้งแต่เนื้อสัตว์ ผัก  เห็ด ชีสไปจนถึงถั่วชนิดต่าง ๆ โดยหากเรารับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ทุกวัน ร่างกายของเรานั้นก็จะได้รับวิตามินทั้งหมดอย่างเพียงพอ ไม่จำเป็นต้องรับประทานวิตามินหรืออาหารเสริมอื่น ๆ เพิ่มเติม แต่ในกรณีที่เราไม่สามารถรับประทานอาหารเหล่านี้ได้ครบทั้งหมด ทำให้ร่างกายขาดวิตามินที่จำเป็นบางส่วนไป การมองหาอาหารเสริมเพื่อช่วยคงประสิทธิภาพของร่างกายให้ทำงานเป็นปกติจึงเป็นอีก 1 ในทางเลือก

โดยทั่วไปแล้วนั้น การรับประทานวิตามินจะแบ่งออกเป็น วิตามินชนิดละลายในน้ำและวิตามินที่ละลายในไขมัน

วิตามินละลายน้ำ ได้แก่ วิตามิน B รวม (B1-B12) และ วิตามิน C

วิตามินละลายในไขมัน ได้แก่ วิตามิน A, D, E, K

วิตามินซี (Vitamin C)

วิตามินซี วิตามินจำเป็นที่ร่างกายต้องการ โดยวิตามินซึนั้น หากจะให้ได้ผลที่ดีที่สุดนั้น ควรรับประทานตอนท้องว่างและแบ่งรับประทาน 2-3 ครั้งก่อนอาหาร (ครั้งละ 250-500 มก.) สามารถรับประทานช่วงเวลาใดก็ได้ของวัน แนะนำให้รับประทานหลังอาหารสำหรับผู้ที่กังวลเรื่องกรดหรือเคยมีปัญหากระเพาะอาหารอักเสบ ไม่ควรรับประทานเกินวันละ 1000 มก. ยกเว้นในกรณีที่จำเป็นหรือแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเป็นคนสั่งจ่ายยา

อาหารที่มีวิตามินซีสูง: พืชตระกูลซิตรัส (ส้ม, เลมอน, กีวี่), พริกหวาน, มะเขือเทศ, บร็อคโคลี่, กะหล่ำดอก, กะหล่ำปลี

วิตามินซี

วิตามินบี (Vitamin B)

วิตามินบี อาหารเสริมวิตามินบีที่วางจำหน่ายทั่วไปนั้นจะอยู่ในรูปของวิตามินบีรวม วิธีการรับประทานวิตามินบีรวมนั้น สามารถรับประทานตอนท้องว่างหรือพร้อมอาหารเช้า โดยทั่วไปแล้วหากต้องการให้ดูดซึมสูงที่สุด แนะนำให้รับประทานวิตามินบีรวมตอนท้องว่างในช่วงเช้าเพื่อช่วยให้กระบวนการเมทาบอลิซึมนำสารอาหารที่ได้ไปสร้างพลังงานได้อย่างเต็มที่

 

อาหารที่มีวิตามินบีสูง: ข้าวกล้อง, นมถั่วเหลือง, ไข่, นม, ไก่, ตับ, พืชตระกูลถั่ว, อะโวคาโด

วิตามินเอ (Vitamin A)

อาหารเสริมประเภทวิตามินเอส่วนใหญ่ทั่วไปนั้น สกัดมาจากน้ำมันตับปลา โดยสำหรับการทานอาหารเสริมวิตามินเอ แนะนำให้ทานพร้อมอาหารหรือหลังอาหาร เพราะวิตามินเอละลายในไขมัน ทำให้การดูดซึมมีประสิทธิภาพ

 

อาหารที่มีวิตามินเอสูง: แครอท ฟักทอง มะเขือเทศ พริกหวาน มะม่วง แคนตาลูป ตับวัว นม ไข่

Vitamin_A

วิตามินดี (Vitamin D)

วิตามินดีนั้นจำเป็นต่อระบบภูมิคุ้มกันร่างกาย, กระดูก, การเจริญเติบโตของเซลล์และอื่น ๆ อีกมากมาย โดยวิตามินดีสามารถรับประทานในช่วงเวลาใดก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นพร้อมอาหารหรือหลังอาหาร ซึ่งจะได้ผลดีและมีประสิทธิภาพสูงสุดเหมือนรับประทานพร้อมกับอาหารที่มีไขมัน

 

อาหารที่มีวิตามินดีสูง: ปลาทู เต้าหู้ นมถั่วเหลือง ไข่แดง ตับ เนื้อแดง

วิตามินดี

วิตามินอี (Vitamin E)

วิตามินอีสามารถพบได้ในอาหารประเภทที่มีไขมันสูง โดยวิตามินอีช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ บรรเทาอาการปวดท้องก่อนประจำเดือนมา กระตุ้นภูมิคุ้มกันร่างกาย ช่วยให้ผิวชุ่มชื่น การทานอาหารเสริมวิตามินอีควรทานพร้อมกับอาหารที่มีไขมันเพื่อช่วยในการดูดซึมที่ดียิ่งขึ้น

 

อาหารที่มีวิตามินอีสูง: อะโวคาโด น้ำมันทานตะวัน อัลมอนด์ ถั่วลิสง ฟักทอง พริกหวาน

วิตามินอี

วิตามินเค (Vitamin K)

วิตามินเค วิตามินจำเป็นสำหรับร่างกายตัวสุดท้ายที่มีความสำคัญต่อการแข็งตัวของเลือดและการบำรุงรักษาเนื้อเยื่อกระดูก โดยมีวิธีการทานเหมือนกับวิตามินอี คือถ้าต้องการจะให้ได้ผลและดูดซึมดีที่สุด ควรทานพร้อมกับมื้ออาหารที่มีไขมัน

 

อาหารที่มีวิตามินเคสูง: ผักใบเขียว บล็อคโคลี่  กะหล่ำปลี ถั่ววอลนัท กระเจี๊ยบเขียว

อาหารที่มีวิตามินอีสูง: อะโวคาโด น้ำมันทานตะวัน อัลมอนด์ ถั่วลิสง ฟักทอง พริกหวาน

วิตามินเค

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *